HOW TO การใช้ และรักษาประสิทธิภาพของก้านหอม 

 

ก้านหอม ไอเท็มสำคัญที่สามารถเป็นได้ทั้งอุปกรณ์แต่งบ้าน ไปพร้อม ๆ กับการปรับอากาศ เปลี่ยนบรรยากาศให้บ้าน หรือให้ห้องของคุณสดชื่น น่าอยู่ ช่วยให้ผ่อนคลายสบายใจผ่อนกลิ่นหอมที่คุณถูกใจได้มากขึ้น รวมไปถึงกลิ่นหอม ๆ ที่มาจากก้านหอมเหล่านี้ ยังเป็นสัญลักษณ์ที่บ่งบอกถึงความเป็นคุณ บ่งบอกถึงเทส และรสนิยมได้เป็นอย่างดีเลยทีเดียว 

 

มาทำความรู้จักกับก้านหอม หรือ reed diffuser กันก่อน 

ไม่ว่าคุณจะเป็นมือใหม่หัดลองใช้ก้านหอม หรือเป็นสาวกก้านหอมที่เลือกซื้อ เลือกใช้กันอยู่บ่อยครั้งก็ตาม เราอยากให้ทุกคนมารู้จักกับก้านหอม หรือ reed diffuser แบบเจาะลึกกันก่อน เพื่อให้คุณได้รู้จัก เลือกซื้อ ใช้งานได้อย่างถูกต้อง ถูกวิธี และสามารถรักษาประสิทธิภาพได้อย่างดี ทำให้ก้านหอมสามารถใช้งานได้นาน มีคุณภาพ กลิ่นหอมอยู่ทนอยู่นาน กระจายกลิ่นหอมได้ดีมากที่สุด 

 

ก้านหอม ก้านไม้หอม หรือ reed diffuser โดยทั่วไปจะสามารถแบ่งออกเป็น 2 แบบด้วยกัน 

  1. ก้านหอมแบบใช้น้ำเป็นเบส กลุ่มนี้จะมีราคาค่อนข้างถูก แต่จะกลิ่นกระจายอยู่ในบริเวณใกล้ ๆ เหมาะกับห้องขนาดเล็ก ตัวน้ำหอมระเหยเร็วมาก อาจไม่เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการกลิ่นหอมชัด ต้องการให้กลิ่นกระจายตัวดี แนะนำผู้ที่ต้องการไอเท็มแต่งบ้าน วางตามโต๊ะต่าง ๆ เพื่อเพิ่มความสวยงาม หรือต้องการปรับบรรยากาศ มีกลิ่นหอมอ่อน ๆ เพียงเท่านั้น 
  2. ก้านหอมแบบใช้น้ำมันเป็นเบส กลุ่มนี้จะมีราคาค่อนข้างสูงกว่าแบบน้ำพอสมควรเลย แต่เรื่องกลิ่นหอม คุณภาพ การกระจายตัวของกลิ่น ความหอมที่ชัดเจนของกลิ่นก็จะมีมากกว่า อายุการใช้งานอยู่ได้น犀利士
    านกว่า อีกทั้งยังได้ประโยชน์อื่น ๆ เพิ่มเติมจากตัวน้ำมันหอมระเหยดังกล่าวอีกด้วย แนะนำสำหรับผู้ที่อยากได้ก้านหอมกลิ่นละมุน เน้นความเป็นเอกลักษณ์ ชอบกลิ่นหอมชัด ๆ แต่ไม่ได้แรงจนฉุนหรือเวียนหัว สามารถใช้เป็นอุปกรณ์ตกแต่งเพิ่มความสวยงามให้ภายในบ้าน หรือห้องได้เช่นกัน 

 

สำหรับสถิรา Perfume Reed Diffuser จะเป็นก้านหอมแบบใช้น้ำมันเป็นเบส มีการผสมผสานระหว่างน้ำมันหอมระเหยบริสุทธิ์ เข้ากับน้ำหอม ทำให้ก้านหอมตัวนี้สามารถกระจายกลิ่นหอมได้ดี หอมทน หอมนานด้วยนะ 

 

ใช้ก้านหอมยังไง? ให้คุ้มที่สุด 

หลายคนคิดว่าแค่เปิดขวด – ปักก้านไม้หอมแล้วก็จบ ตัวน้ำหอมหมดขวดแล้วก็ค่อยเปลี่ยนใหม่ การใช้ก้านหอมวิธีนี้ไม่ผิดค่ะ แค่คุณอาจจะไม่ได้ใช้ก้านหอมได้อย่างคุ้มค่ามากที่สุดก็เท่านั้น ทำให้การใช้ก้านหอมอาจจะต้องมีการคำนวนพื้นที่ของห้องซักหน่อย 

 

  • พื้นที่ในการกระจายกลิ่นของก้านไม้หอมต่อหนึ่งจุด จะอยู่ที่ราว ๆ 9 – 12 ตารางเมตรโดยประมาณ  หากพื้นที่ห้องใหญ่ ควรตั้งก้านหอมหลาย ๆ จุด เพื่อให้กลิ่นหอมกระจายได้ทั่วถึง 
  • ช่วงแรกหลังเปิด และปักก้านหอม กลิ่นอาจจะยังกระจายตัวได้ไม่ดีหนัก เพราะก้านไม้ยังไม่ได้ดูน้ำหอมขึ้นมาจนเต็ม ให้รอ 30 นาที – 1 ชั่วโมง จะเริ่มได้กลิ่นหอมอบอวลรอบห้องมากขึ้น 
  • หากกลิ่นหอมเข้มข้นมากเกินไป จนรู้สึกฉุน หรือเวียนหัวให้ลดปริมาณของก้านหอมที่ปักลง หรือในขณะเดียวกัน หากอยากได้กลิ่นหอมที่เข้มข้น ชัดเจนขึ้นให้ปักก้านไม้เพิ่ม 
  • หลังจากที่ใช้งานก้านหอมไปซักพัก กลิ่นจากที่เคยเข้มข้น ชัดเจน กระจายตัวได้ดี อาจจะเริ่มได้กลิ่นน้อยลง ไม่กระจายตัวได้ดีเท่าเดิม เพราะก้านไม้ดูดน้ำจนตัน แนะนำให้สลับฝั่งก้านหอมจากหัวมาท้ายทุกวัน หรือทุกครั้งที่เริ่มรู้สึกว่ากลิ่นหอมเริ่มลดลง
  • สามารถเปลี่ยนมาใช้ก้านหอมอันใหม่ได้ หรือหากก้านหอมสำรองหมดแล้วจะนำก้านหอมเก่ามาทำความสะอาด และนำมาปักใหม่อีกครั้งก็ได้เช่นกัน

 

ข้อควรระวังในการใช้ก้านหอม หรือ reed diffuser 

  • ก้านหอมจะกระจายความหอมได้ดีในพื้นที่ปิด เช่น ห้องที่ติดแอร์ หากวางก้านหอมไว้ในจุดที่มีลมพัดถ่ายเท กลิ่นหอมจะกระจายหายไปตามลม 
  • อายุการใช้งานของน้ำหอมของก้านหอมจะสามารถเก็บไว้ได้ถึง 3 ปี หากไม่ได้เปิดจุดขวดน้ำหอม แต่หากเปิดจุกน้ำหอมแล้ว เพื่อประสิทธิภาพของกลิ่นหอมที่ดีที่สุด ให้ใช้งานให้หมดภายใน 6 เดือน 
  • ไม่เก็บไว้ในพื้นที่ที่มีแสงแดด หรือร้อน เพราะจะทำให้น้ำหอมเกิดความเปลี่ยนแปลงได้ 
  • กรณีที่ต้องการใช้ก้านหอมเป็นของตกแต่งบ้าน ต้องระมัดระวังไม่ให้น้ำหอมหก หรือเลอะเฟอร์นิเจอร์ น้ำหอมอาจจะทำให้เฟอร์นิเจอร์เสียหายได้ 

 

เลือกกลิ่นก้านหอมยังไงให้ถูกใจ 

กลิ่นหอมมีหลากหลายแบบ ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับคุณเองว่าต้องการกลิ่นหอมแบบใด หรือชื่นชอบกลิ่นหอมสไตล์ใดมากเป็นพิเศษ จากนั้นจึงค่อยเลือกก้านหอมที่มีส่วนผสมไปในทิศทางของกลิ่นที่คุณต้องการ ยกตัวอย่างเช่น 

 

  • หากคุณเป็นคนชอบกลิ่นที่เย้ายวน มีเสน่ห์

 

กลิ่น Damask Rose ที่แฝงไปด้วยความโรแมนติก และความสง่างาม ก็เป็นกลิ่นที่ตอบโจทย์แน่นอน หรือ กลิ่น Orchid Sandalwood ที่ผสมผสานกลิ่นหอมของแบล็กออร์คิดและไม้จันทน์หอมเข้าด้วยกันได้เป็นกลิ่นที่หอมหรูหรา มีเสน่ห์  

 

  • หากคุณเป็นคนที่ชอบกลิ่นหอมเย็น สดชื่น 

 

ขอแนะนำ กลิ่น Jasmine Blossom ที่ผสมผสานกลิ่นหอมของดอกมะลิ ช่วยสร้างแรงบันดาลใจ เพิ่มความมั่นใจ และให้กลิ่นหอมสดชื่น นอกจากนี้ยังมี กลิ่น Ocean Breeze ให้ความรู้สึกสดชื่นเหมือนกำลังยืนอยู่ที่ริมทะเล ด้วยกลิ่นหอมของ เกรปฟรุต มินต์ ดอกบัว และ ดอกมะลิ หรือ กลิ่น Tropical Sunrise ก็ให้ความรู้สึกหอม สดชื่นสบาย จากกลิ่นของผลไม้เมืองร้อน เช่น เสาวรส มะม่วงและสับปะรด  

 

  • หากคุณเป็นคนที่ชอบกลิ่นหอมผ่อนคลาย

กลิ่น Lavender ที่ช่วยให้รู้สึกผ่อนคลายจากความเหนื่อยล้า ลดความเครียด หลับสบายมากยิ่งขึ้น นับว่าเป็นกลิ่นที่ห้ามพลาด หรือ กลิ่น Thai Lemongrass ก็ให้ความรู้สึกหอมสดชื่น ช่วยให้จิตใจสงบ และคลายความเครียด

 

เมื่อเจอกลิ่นที่ชอบ สไสตล์ที่ใช่แล้ว และไม่รู้ว่าจะหาซื้อ ก้านหอม (reed diffuser) ที่ดีและมีประสิทธิภาพที่ไหนดี ให้ก้านหอมจากสถิราเป็นตัวช่วยในการผ่อนคลายให้กับคุณ สามารถดูสินค้าเพิ่มเติมได้ที่ www.satirathai.com