Archives
โรคยอดฮิต ถึงจะฮิตแค่ไหนถ้าชื่อว่าเป็นโรคแล้ว ก็คงไม่มีใครอยากจะเป็น แต่ถ้าพฤติกรรมการทำงานของเราดันไปเอื้อต่อการพบเจอเข้ากับโรคยอดฮิตเหล่านี้ ที่มักจะคุกคามคนทำงานออฟฟิศอยู่เป็นประจำขึ้นมาล่ะ จะทำอย่างไรดี?
กว่าจะรู้ตัวก็สายไปแล้ว เพราะหลายคนทำงานเพลิน ๆ อยู่หลายปี รู้ตัวอีกทีร่างกายก็เริ่มเจ็บป่วยจากความเครียด และพฤติกรรมการนั่งอยู่ที่เดิมซ้ำ ๆ นานทีละหลาย ๆ ชั่วโมงเข้าให้ กลายเป็นโรคยอดฮิตประจำออฟฟิศที่วัยหนุ่มสายพบเจอกันมากที่สุด แต่จะมีอะไรบ้าง เรายกโรคยอดฮิตมาให้คุณลองทำความรู้จัก 2 กลุ่มอาการด้วยกัน มาดูว่าคุณกำลังพบเจอกับอาการเหล่านี้อยู่หรือไม่ และถ้าหากคุณกำลังเจออยู่จะสามารถทำให้อาการเหล่านี้ทุเลาลงในระยะสั้น ๆ ได้อย่างไร
ปวดหัว ไมเกรน
อาการปวดหัวไมเกรน คือหนึ่งในโรคยอดฮิตที่เป็นปัญหาใหญ่ของคนทำงานเลยก็ว่าได้ เพราะไมเกรนถือเป็นสิ่งที่รบกวนชีวิตการทำงานมากที่สุด ลักษณะอาการจะปวดหัวตุบ ๆ เป็นจังหวะ มีทั้งปวดข้างเดียว และปวดสองข้าง สามารถพัฒนาระดับความรุนแรงตั้งแต่ปวดเพียงเล็กน้อยไปจนถึงปวดมากจนมีอาการอื่น ๆ เข้ามาแทรกแซงด้วย อาทิ คลื่นไส้อาเจียน อาการไวต่อกลิ่นและแสงมากกว่าปกติจนเวียนหัว รู้สึกอ่อนแรง ดวงตาพร่ามัว เป็นต้น
สาเหตุจากการเกิด “ไมเกรน”
ถึงแม้ว่าในปัจจุบัน จะยังไม่มีสาเหตุที่แน่ชัดว่าโรคยอดฮิตชนิดนี้เกิดขึ้นจากอะไร แต่คุณสามารถเฝ้าระวัง หลีกเลี่ยงปัจจัยที่สามารถกระตุ้นให้เกิดไมเกรน ดังนี้
ความเครียด
อดนอน พักผ่อนไม่เพียงพอ หรือนอนมากเกินไป
อดอาหาร รับประทานอาหารไม่เพียงพอ
ถอนคาเฟอีน, สูบบุหรี่
ใช้ยาบางชนิด
ออกกำลังกายหักโหมจนเกินไป
ปัจจุบันอาการไมเกรนยังไม่สามารถรักษาให้หายขาดได้ แต่คุณเองสามารถทำให้อาการจากโรคยอดฮิตนี้ทุเลาเบาบางลงได้ มีตั้งแต่การใช้ยาแก้ปวด บรรเทาอาการปวดตามความรุนแรงของอาการไมเกรนที่เป็น มีตั้งแต่กลุ่มยาสามัญประจำบ้าน และยาที่แพทย์ต้องเป็นผู้จ่ายให้เท่านั้น
นอกจากนี้ การผ่อนคลายตัวเอง ลดความเครียดด้วยการนวดและกลิ่นหอม มีการศึกษาเกี่ยวกับการใช้กลิ่นหอมมาผ่อนคลายและบรรเทาความเครียดลงได้ ซึ่งสิ่งนี้จึงกลายเป็นสิ่งที่เข้ามาช่วยลดกระตุ้นอาการไมเกรน หรือทำให้อาการปวดหัวทุเลาลงได้ในระดับดี
เทคนิคแก้ไมเกรนด้วยการนวดและกลิ่นหอม
การนวดเป็นวิธีการที่ช่วยบรรเทาอาการปวดหัวไมเกรนได้ง่าย และรวดเร็วมากที่สุด โดยวิธีนวดควรนวดพร้อมกับการใช้ควบคู่กับอโรมาติกออยล์ที่มีกลิ่นช่วยผ่อนคลายความเครียดได้โดยเฉพาะ เช่น
Sarita Aromatic Oil Destress Eucalyptus กลิ่นยูคาลิปตัส เพิ่มความสดชื่น หายใจโล่งผ่อนคลาย
Sarita Aromatic Oil Lavender ช่วยให้จิตใจสงบ ผ่อนคลาย นอนหลับง่ายขึ้น
เน้นนวดบริเวณขมับ ต้นคอ และช่วงไหล่ นวดคลึงไปเรื่อย ๆ ร่างกายจากที่ตึงเครียดรู้สึกผ่อนคลายลง เส้นเลือดก็จะค่อย ๆ คลายตึง ไม่หดเกร็ง ทำให้อาการไมเกรนทุเลาลงได้
ออฟฟิศซินโดรม
ยกให้เป็นโรคยอดฮิตประจำออฟฟิศที่เป็นดังตลกร้ายที่คอยหลอกหลอนมนุษย์เงินเดือนมาตั้งแต่รุ่นเล็กรุ่นใหญ่ ออฟฟิศซินโดรนถือเป็นกลุ่มอาการที่เกิดขึ้นจากพฤติกรรมการทำงานในท่าซ้ำ ๆ เดิม ๆ ไม่มีการเคลื่อนไหว ความเครียด และอื่น ๆ อีกมากมาย โดยอาการที่เข้าข่ายเป็นออฟฟิศซินโดรม จะประกอบไปด้วย
ปวดหลัง
ปวดคอ บ่า ไหล่ ไหล่ตึงแข็ง
ปวดตา ตาพร่ามัวจากการจ้องหน้าจอนาน ๆ
ปวดตึงที่ขา เป็นเหน็บชาบ่อย
ปวดศีรษะ
ปวดข้อมือ มือชา นิ้วชาบ่อยครั้ง
ซึ่งหากจะให้พูดถึงอาการยอดฮิตที่คนทำงานมักจะต้องเจอ จะพบกลุ่มอาการปวดกล้ามเนื้อ และเยื่อพังผืดตามร่างกายมากที่สุด เกิดจากการใช้กล้ามเนื้อมัดเดิมซ้ำ ๆ เป็นระยะเวลานานต่อเนื่อง ซึ่งก็ไปตรงกับพฤติกรรมการนั่งทำงานอยู่ในท่าเดิมวันละหลายชั่วโมง การใช้เม้าส์, คีย์บอร์ดอยู่ในท่าซ้ำ ๆ ส่งผลให้เกิดอาการกล้ามเนื้ออักเสบ และปวดเมื่อยตามอวัยวะต่าง ๆ เป็นกันมากในบริเวณคอ หลัง ไหล่ บ่า แขน หรือข้อมือ มีตั้งแต่อาการปวดเล็กน้อย และร้ายแรงไปจนถึงปวดเรื้อรัง จำเป็นต้องได้รับการกายภาพ รักษาอย่างเร่งด่วน
นวดผ่อนคลายกล้ามเนื้อและความเครียด คือทางออก
เพราะแบบนี้เอง การนวดผ่อนคลายกล้ามเนื้อร่วมกับน้ำมันหอมระเหยกลิ่นหอมละมุน จึงกลายเป็นทางออกของชาวออฟฟิศซินโดรมก่อนเป็นอันดับต้น ๆ เพราะการนวดถือเป็นการลดอาการปวดเมื่อย คลายความตึงแข็งของกล้ามเนื้อที่ทำงานมาอย่างหนักหน่วง และเป็นการผ่อนคลายความเครียดที่สะสมจากงานมาทั้งวันไปในตัว ทำให้การเลือกใช้น้ำมันหอมระเหยที่ดีที่สุด ผ่านกลิ่นที่เราผ่อนคลายและชื่นชอบมากที่สุด จึงจะช่วยส่งผลได้ให้รับประโยชน์ไปอย่างครบถ้วน เปลี่ยนให้ช่วงเวลาในการนวดผ่อนคลายนี้ กลายเป็นช่วงเวลาที่คุณได้ปลดปล่อยอาการปวดเมื่อย ปวดใจละทิ้งสิ่งที่คิดมาทั้งวันได้อย่างแท้จริง
น้ำมันหอมระเหยมีให้เลือกหลายกลิ่น แต่ละกลิ่นสามารถมอบความรู้สึก มอบความผ่อนคลายที่แตกต่างกันไป ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับความชอบส่วนตัวล้วน ๆ โดยอโรมาติกออยล์ หรือน้ำมันหอมระเหยจากสถิรา มีให้เลือกมากถึง 10 กลิ่นด้วยกัน
Sarita Aromatic Oil Coconut หอมหวาน ผ่อนคลาย เปลี่ยนให้กลายเป็นเวลาพักผ่อน
Sarita Aromatic Oil Frangipani หรือดอกลีลาวดี หอมละมุนสไตล์ดอกไม้
Sarita Aromatic Oil Ocean Breeze โดดเด่นด้วยกลิ่นเกรตฟรุต และมิ้นท์
Sarita Aromatic Oil Destress Eucalyptus กลิ่นยูคาลิปตัส สดชื่น ผ่อนคลาย
Sarita Aromatic Oil Jasmine ลดความเครียด ซึมเศร้า เพิ่มพลังบวก
Sarita Aromatic Oil Lavender ช่วยให้จิตใจสงบ ผ่อนคลาย นอนหลับง่ายขึ้น
Sarita Aromatic Oil Lemongrass หรือตะไคร้ เพิ่มความสดชื่น แก้ปวดเมื่อย ฆ่าเชื้อโรค ระงบกลิ่นไม่พึงประสงค์
Sarita Aromatic Oil Rose หอมหวาน โรแมนติก กระตุ้นการหายใจ เพิ่มความผ่อนคลาย
Sarita Aromatic Oil Orchid Sandalwood อบอุ่นชวนฝัน หรูหราผ่อนคลาย
Sarita Aromatic Oil Tropical Sunrise สดใส เพิ่มความกระปรี้กระเปร่า
สุดท้ายแล้ว ไม่ว่าจะนวด ฝั่งเข็ม หาหมอหมดเงินไปมากมายซักแค่ไหน ทุกอย่างจะไม่เป็นผลเลยหากคุณไม่ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมที่เป็นสาเหตุในการเกิดโรคฮิตนี้ ไม่ว่าจะทั้งไมเกรน ออฟฟิศซินโดรมและอื่น ๆ อีกมากมาย ดังนั้นลองค่อย ๆ ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมซักนิด อาจจะเริ่มจากการลุกขึ้นมายืดเส้นยิดสาย ไม่ให้มัดกล้ามทำงานซ้ำ ๆ เดิม ๆ นานจนเกินไป พักสายตาจากหน้าจอบาง ดื่มน้ำเปล่าบ่อย ๆ ลุกเข้าห้องน้ำบ้างอย่าอั้นไว้ เพียงเท่านี้คุณก็จะสามารถทำงานที่เรารักได้อย่างมีความสุข ไม่ต้องทรมานร่างกายตัวเองแล้ว
รู้กันรึเปล่าว่า สภาพผิวของคุณเป็นแบบไหน ? Satira ขอพาทุกคนมาเช็กลิสต์ทำความรู้จักสภาพผิวแต่ละแบบซึ่งถือเป็นจุดเริ่มต้นของการดูแลผิวให้มีสุขภาพดีตามความเหมาะสมกับพื้นฐานของผิวแต่ละแบบ แล้วสภาพผิวแบบไหนที่ใช่คุณ มาหาคำตอบไปพร้อมกันได้เลย
เช็กสภาพผิวทีละขั้นง่าย ๆ ทำได้แบบนี้
เช็ดผิว ลบเครื่องสำอางให้ออกจนหมด
ล้างหน้าให้สะอาดหมดจด แล้วซับเบา ๆ ให้หน้าแห้งดี
งดทาผลิตภัณฑ์บำรุงผิวใด ๆ ก่อนเข้านอน
ใช้กระดาษซับมันทดสอบซับความมันบนผิวหน้าหลังตื่นนอน โดยทดสอบซับความมันที่บริเวณหน้าผาก จมูก คาง และแก้ม
ผลลัพธ์สภาพผิวแต่ละประเภท
โดยทั่วไปแล้วสามารถแบ่งประเภทของผิวตามสภาพและลักษณะได้เป็น 5 ประเภท ได้แก่ ผิวธรรมดา (Normal Skin), ผิวแห้ง (Dry Skin), ผิวมัน (Oily Skin), ผิวผสม (Combination Skin) และผิวแพ้ง่าย (Sensitive Skin) ซึ่งถูกกำหนดด้วยพันธุกรรมและปัจจัยสภาพแวดล้อมภายนอกที่แตกต่างกันออกไปตามแต่ละบุคคล
ผิวธรรมดา (Normal Skin)
บ่งบอกถึงผิวที่มีความสมดุล คือไม่แห้งจนเกินไปและไม่มันจนเกินไป เรียกได้ว่าเป็นผิวที่สภาพดีที่สุดเพราะดูแลง่าย ไม่ค่อยพบปัญหาผิวใด ๆ
ผู้ที่มีผิวประเภทนี้เมื่อทดสอบแล้วจะพบความมันเพียงเล็กน้อยที่หน้าผาก จมูก คาง และแก้ม
ผิวแห้ง (Dry Skin)
บ่งบอกถึงผิวที่ละเอียดบอบบาง มีความแห้งกร้าน ทำให้เกิดริ้วรอยได้ง่าย เนื่องจากน้ำมันจากต่อมไขมันในผิวไม่เพียงพอที่จะป้องกันการสูญเสียน้ำของผิว ผู้ที่มีผิวประเภทนี้เมื่อทดสอบแล้วจะพบว่าผิวแห้งตึง ไม่มีความมันบนผิวหน้า
ผิวมัน (Oily Skin)
บ่งบอกถึงผิวที่มองเห็นรูขุมขนได้ชัดเจน และผิวมีลักษณะมันวาว จากการที่ต่อมไขมันผลิตน้ำมันออกมาในปริมาณที่มากเกินไป
ผู้ที่มีผิวประเภทนี้เมื่อทดสอบแล้วจะพบความมันมากที่บริเวณหน้าผาก จมูก คาง และแก้ม
ผิวผสม (Combination Skin)
บ่งบอกถึงผิวที่มีลักษณะผสมกันระหว่างผิวสองประเภท บางบริเวณผิวจะแห้ง ในขณะที่บริเวณอื่นๆ จะมีผิวธรรมดาหรือผิวมัน
ผู้ที่มีผิวประเภทนี้เมื่อทดสอบแล้วจะพบความมันชัดเจนบริเวณหน้าผาก จมูก หรือคาง แต่ไม่พบความมันบริเวณแก้ม
ผิวแพ้ง่าย (Sensitive Skin)
บ่งบอกถึงผิวที่บอบบางมาก ๆ ต่อสิ่งต่าง ๆ ที่สัมผัสผิวหน้า เช่น ฝุ่น แสงแดด ครีม หรือเครื่องสำอาง ซึ่งมีโอกาสระคายเคืองมากกว่าผิวประเภทอื่น
ผู้ที่มีผิวประเภทนี้เมื่อทดสอบแล้วจะพบความมันบ้างเล็กน้อยหรือไม่พบเลย มีข้อสังเกตเบื้องต้นคือ ผิวจะดูไม่ยืดหยุ่น เมื่อลองบีบผิวเบา ๆ จะเกิดริ้วรอยย่นขึ้นมาเล็กน้อย
เมื่อรู้จักสภาพผิวตัวเองแล้ว Satira ขอแนะนำผลิตภัณฑ์ดูแลผิวหน้าที่สามารถใช้ได้ทุกวัน ทุกสภาพผิว เพื่อผิวหน้าแข็งแรงให้คุณได้มั่นใจมากยิ่งขึ้นค่ะ
Botanical Skin Nourishing Lotion
โลชั่นที่มีส่วนผสมของอโรเวล่า และ Hyaluronic Acid ช่วยปกป้อง ฟื้นบำรุงผิวแห้งเสียผิวที่ขาดความชุ่มชื้น ลดการระคายเคืองผิวแสบร้อนจากแดด และยังมีส่วนผสมของน้ำผึ้งช่วยชะลอความเสื่อมของเซลล์ผิว อุดมด้วยวิตามิน A และ Centella Asiatica ช่วยจัดการริ้วรอยและฟื้นฟูผิว
Clarifying Facial Scrub
สครับสำหรับทุกสภาพผิว ด้วยสารสกัดจากโสมและใบแป๊ะก๊วย Ginko Biloba ทำให้ผิวที่อ่อนแอหมองคล้ำกระชับปรับสมดุลของเลือดกระตุ้นการไหลเวียนโลหิต
Detoxifying Face Mask
มาสก์โคลนทำความสะอาดผิวหน้าด้วยการดูดซับสิ่งสกปรกและเซลล์ผิวที่ตายแล้ว อีกทั้งยังมี Centella Asiatica ช่วยปรับสภาพผิวและเพิ่มความสดชื่นให้กับผิวหน้า ในขณะที่น้ำมันงาให้วิตามินอีต่อต้านอนุมูลอิสระสูงทำให้ผิวนุ่มนวลสะอาดและเรียบเนียน เพื่อผิวกระจ่างใส
Gentle Cleansing Cream
ครีมทำความสะอาดสำหรับชำระล้างเครื่องสำอาง ทำความสะอาดผิวหน้าได้ในขวดเดียว และยังเติมความชุ่มชื้นในชั้นผิวได้ด้วยส่วนผสมของ Grapefruit และ Centella asiatica พร้อมฟื้นฟูผิวของคุณให้ผ่อนคลายด้วย Allantoin
Intense Hydration Face Mask
มาส์กเจลเหมาะสำหรับทุกสภาพผิว ให้ความชุ่มชื้นพร้อมแคปเตอร์น้ำธรรมชาติด้วยกรดโซเดียมไฮยาลูโรนิกและอิมเพอราต้าไซคลินดริกาจากกระบองเพชรทะเลทรายทำหน้าที่เป็นสารยึดเกาะตามธรรมชาติเพื่อทำให้เซลล์ผิวแห้งตึงและให้ความชุ่มชื้นยาวนานตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อให้ผิวได้รับการบำรุงอย่างเข้มข้นชุ่มชื้น
Precious Botanical Face & Neck Cream
เหมาะกับทุกสภาพผิว ด้วยสารสกัดวิตามินเอและสารสกัดจากใบบัวบกช่วยลดริ้วรอยและสร้างเซลล์คอลลาเจนใหม่
ประกอบกับโปรตีนไหมไทยช่วยเสริมสร้างเซลล์ผิวเพื่อต่อต้านริ้วรอยแห่งวัย และสารสกัดจากกวาวเครือขาวให้สารไฟโตเอสโตรเจนเพื่อผิวที่ดูอ่อนเยาว์กว่าที่เคย
Precious Eye Cream
คืนความอ่อนเยาว์และมีชีวิตชีวาให้กับดวงตาของคุณด้วย Eyeliss และ Haloxyl ส่วนผสมที่ทำงานร่วมกันอย่างสมบูรณ์แบบเพื่อลดถุงใต้ตาและรอยคล้ำรอบดวงตา ลดความหย่อนคล้อยของผิวเปลือกตา นอกจากนี้ยังมี Centella Asiatica และ Aloe Vera ที่สร้างคอลลาเจนและเติมความชุ่มชื้นให้กับผิวรอบดวงตา โสมกระตุ้นเพิ่มความสดชื่นและลดรอยหมองคล้ำ
Precious Face Essence
น้ำมันนวดหน้าผสานน้ำมันหอมระเหยกุหลาบและวิตามินซีบริสุทธิ์ เพื่อผิวหน้ากระจ่างใสและอ่อนเยาว์เหมาะสำหรับทุกสภาพผิว ช่วยทำให้ผ่อนคลาย และปลอบประโลมผิวได้เป็นอย่างดี โดยสารสกัดจากใบบัวบกช่วยกระตุ้นการไหลเวียนและการสร้างเซลล์ผิวใหม่ ประกอบกับกวาวเครือขาวช่วยนำความชุ่มชื้นและความอ่อนเยาว์กลับคืนสู่ผิว
ซึ่งสามารถใช้ผลิตภัณฑ์ตามนี้ได้ค่ะ
เช็ดทำความผิว ลบเครื่องสำอางให้ออกจนหมดด้วย Gentle Cleansing Cream
หลังจากล้างทำความสะอาดผิวหน้าแล้ว ใช้น้ำตบ Botanical Skin Nourishing Lotion
โลชั่นบำรุงผิวให้ความชุ่มชื้นแก่ผิว
ตามด้วยการบำรุงผิวอย่างล้ำลึกด้วย Precious Face Essence
หลังจากนั้นบำรุงผิวด้วย Precious Botanical Face & Neck Cream และ Precious Eye Cream บำรุงใต้ตาเพื่อลดการเกิดริ้วรอย
สนใจสามารถสั่งซื้อผลิตภัณฑ์ได้ที่ satirathai.com
หากพูดถึงเกาะสมุยคงหนีไม่พ้นเรื่องความสวยงามของชายหาดและน้ำทะเลทอแสงเป็นประกายเมื่อแสงจากพระอาทิตย์ตกกระทบชวนให้ไปสัมผัสและน่าค้นหา และนอกเหนือจากชายหาดที่สวยงาม แต่รู้หรือไม่? เกาะสมุยถือว่าเป็นเกาะขนาดใหญ่อันดับ 2 ของประเทศไทยและยังเป็นเกาะที่มีการปลูกมะพร้าวมากที่สุดในประเทศ เป็นระยะเวลามากกว่าร้อยปีมาแล้ว มะพร้าวบนเกาะสมุยแห่งนี้ถือเป็นพืชเศรษฐกิจที่สร้างรายได้ให้กับชาวบ้านที่อาศัยอยู่บนเกาะสมุย
รู้หรือไม่ทำไมต้องเป็นมะพร้าวจากสมุย?
นั่นเพราะว่ามะพร้าวที่ปลูกบนเกาะแห่งนี้มีผลที่โต เนื้อหนา รสชาติอร่อย มีกลิ่นหอมหวานชื่นใจจนส่งออกไปขายทั่วประเทศ โดยเฉพาะผลิตภัณฑ์น้ำมันมะพร้าวบริสุทธิ์สกัดเย็นออร์แกนิคที่มีวิธีการสกัดตามหลักการตามธรรมชาติ
กว่าจะมาเป็นน้ำมันมะพร้าวสกัดเย็น
กรรมวิธีการผลิตน้ำมันมะพร้าวออแกนิคสกัดเย็นด้วยวิธีหมักบ่มที่เป็นเอกลักษณ์และภูมิปัญญาที่สืบทอดจากรุ่นสู่รุ่นเป็นการสกัดน้ำมันจากเนื้อมะพร้าวสดโดยการหมักน้ำกะทิให้น้ำมันแยกออกจากกะทิเอง โดยไม่ได้ผ่านกระบวนการที่ใช้ความร้อนและไม่ผ่านกระบวนการแปรรูปทางเคมีใดๆทั้งสิ้น จึงทำให้ได้น้ำมันมะพร้าวที่บริสุทธิ์ มีคุณภาพที่ดี
น้ำมันมะพร้าวสกัดเย็นแบบออร์แกนิคต่างจากน้ำมันมะพร้าวแบบอื่นอย่างไร ก่อนอื่นขอบอกก่อนเลยว่าประเภทของน้ำมันมะพร้าวนั้น ปัจจุบันสามารถแบ่งออกเป็น 2 ประเภท คือ
1. น้ำมันมะพร้าวแบบธรรมดาหรือที่เรียกกันติดปากว่าน้ำมันมะพร้าวสกัดร้อน ซึ้งต้องผ่านกระบวนการความร้อนและผ่านกระบวนการแปรรูปทางเคมี และประเภทที่
2 คือน้ำมันมะพร้าวบริสุทธิ์หรือน้ำมันมะพร้าวสกัดเย็น ที่ได้จากการสกัดโดยวิธีทางธรรมชาติ หรือการบีบโดยไม่ผ่านความร้อน
ไขความลับคุณค่าความงามจากมะพร้าวสมุย
น้ำมันมะพร้าวออแกนิคสกัดเย็น ที่ได้มาจากการหมักบ่มด้วยความเย็นให้น้ำกะทิแยกชั้น ทำให้ได้น้ำมันมะพร้าวธรรมชาติ เข้มข้นกว่าการใช้เครื่อง Centrifuge (เครื่องมือใช้แยกของเหลวออกจากของแข็งที่มีความถ่วงจำเพาะต่างกันให้เกิดการแยกชั้น) และยังคงคุณค่าวิตามิน สารต่อต้านอนุมูลอิสระไว้ได้อย่างเข้มข้นด้วยสูงสุด นอกจากนี้ยังมีคุณสมบัติที่โดดเด่น ดังนี้
สร้างคอลลาเจนและอิลาสติน ซึ่งทำให้ผิวมีความยืดหยุ่น กระชับ ช่วยชะลอการเกิดริ้วรอยแห่งวัยได้เป็นอย่างดี
มีสารต่อต้านอนุมูลอิสระ ช่วยบำรุงผิวให้นุ่มชุ่มชื้น และเก็บรักษาความชุ่มชื้นในชั้นผิวหนังเอาไว้
มีวิตามินอี ช่วยป้องกันและรักษาฝ้า และ กระ อนุมูลอิสระ
มีกรดลอริก ช่วยจัดการแบคทีเรียบนใบหน้า ซึ่งเป็นตัวการที่ทำให้เกิดสิวเรื้อรัง
บำรุงเส้นผมและช่วยลดการสูญเสียโปรตีนของเส้นผมได้ดี
ช่วยทำให้ผิวพรรณสดใส เปล่งปลั่งอย่างเป็นธรรมชาติ
แก้ปัญหาผิวแห้ง ผิวลอก ทำให้แต่งหน้าติดทนตลอดวันและไม่ตกร่อง
ช่วยปกป้องผิวจากแสงแดดและมลภาวะ รวมถึงปัญหาผิวไหม้จากแสงแดด
จัดการรอยคล้ำบริเวณรอบดวงตาได้ง่ายขึ้น นอกจากนี้ยังช่วยให้ขนตาเรียวยาวได้อีกด้วย
บำรุงสุขภาพเล็บ ฝ่ามือ และเท้าได้เป็นอย่างดี
ซึ่งน้ำมันมะพร้าวสกัดเย็นจากสมุยถือเป็นสารสกัดสำคัญของทางแบรนด์ Satira เราได้เล็งเห็นถึงคุณสมบัติและคุณค่าอันเต็มเปี่ยมของมะพร้าวสมุย เพื่อให้ลูกค้าได้รับการบำรุงสูงสุดจากการตั้งใจคัดสรร ประกอบกับโอกาสในการสนับสนุนชาวสวนไทยอย่างแท้จริง จึงได้พัฒนาและรังสรรค์ผลิตภัณฑ์คอลเลคชั่น ‘Samui Coconut’ ประกอบด้วย
Samui Coconut 3 in 1 Shampoo, Body Wash, Bubble Bath ผสานสารสกัดธรรมชาติหลากชนิด อาทิ โปรตีนรังไหม ว่านหางจระเข้และน้ำมันมะพร้าวออแกนิคจากเกาะสมุย
Samui Coconut Creamy Body Scrub สครับขัดผิวเนื้อครีม อ่อนละมุนอุดมด้วยคุณค่าสารสกัดธรรมชาติของมะพร้าว ว่านหางจระเข้ และน้ำมันมะพร้าวสกัดเย็นบริสุทธิ์ ให้คุณได้เผยผิวเนียนนุ่มน่าสัมผัสได้อย่างง่ายดาย
Samui Coconut Intensive Moisturizing Body Lotion เนื้อโลชั่นเข้มข้นแต่ซึมซาบได้อย่างรวดเร็ว เพื่อเติมเต็มความชุ่มชื้นให้ผิว พร้อมเสริมสร้างความแข็งแรงให้แก่เซลล์ผิว ทั้งเชียบัทเทอร์ น้ำมันมะพร้าวออแกนิค น้ำมันรำข้าวออแกนิค และสารสกัดโปรตีนรังไหม
Samui Coconut Nourishing Hand Cream ครีมบำรุงผิวมือที่อุดมไปด้วยส่วนผสมอันทรงคุณค่าจากธรรมชาติ ที่พร้อมบำรุงผิวให้เนียนนุ่มพร้อมคุณสมบัติต่อต้านอนุมูลอิสระ ปกป้องและเติมความชุ่มชื่นให้ผิวนุ่มนวลน่าสัมผัสไปอีกระดับ
แน่นอนว่าที่ขาดไม่ได้เลยคือน้ำมันมะพร้าวบริสุทธิ์ยอดนิยมจากมะพร้าวสมุยโดยเฉพาะ อย่าง Samui Coconut Organic Virgin Coconut Oil น้ำมันมะพร้าวบริสุทธิ์สกัดจากเนื้อมะพร้าวบนเกาะสมุยที่มีคุณภาพ ไม่ผ่านความร้อนและสารเคมี ช่วยบำรุงผิวให้เนียนนุ่มดูอ่อนวัย และยังช่วยบำรุงเส้นผมให้สุขภาพดี เงางาม ส่วน Samui Coconut Massage Oil นั้นเป็นน้ำมันนวดผิวกายสูตรพิเศษที่มีส่วนผสมของน้ำมันมะพร้าวสกัดเย็นออแกนิค น้ำมันมะกอก น้ำมันรำข้าว น้ำมันสวีทอัลมอนด์และวิตามินอี ผสานกับน้ำมันหอมกลิ่นมะพร้าวและมัสก์ ช่วยผ่อนคลายจากวันที่เหนื่อยล้าโดยเฉพาะ เต็มเปี่ยมไปด้วยความอบอุ่นหอมหวานเสมือนอยู่ระหว่างการพักผ่อนในหน้าร้อนบนเกาะส่วนตัว
นอกจากนี้ยังมี Samui Coconut Mini Set รวมไว้ด้วยกลิ่นหอมของมะพร้าว และคุณประโยชน์ของน้ำมันมะพร้าวบริสุทธิ์ออร์แกนิก เหมาะสำหรับเป็นของขวัญให้ตัวเองหรือบุคคลที่คุณรักหากคุณเป็นอีกหนึ่งคนที่ต้องการได้รับการบำรุงอย่างล้ำลึกด้วยสารสกัดธรรมชาติและวิตามินจากมะพร้าวสมุยไปพร้อมกับการสนับสนุนชาวสวนไทยต้องไม่พลาดผลิตภัณฑ์คอลเลคชั่น ‘Samui Coconut’ จาก Satira สามารถรับชมผลิตภัณฑ์เพิ่มเติมได้ที่ satirathai.com
ท่ามกลางสมุนไพรที่อุดมไปด้วยคุณสมบัติและประโยชน์ที่แตกต่างออกไปกันมากมาย แน่นอนว่าหนึ่งในสมุนไพรที่จะไม่เอ่ยถึงไม่ได้เลยคือ ใบบัวบก หรือ Cica ซึ่งมีการนำเอาสารสกัดใบบัวบก (Centella Asiatica) ซึ่งเป็นที่รู้กันว่าดีต่อสุขภาพอย่างแท้จริง นอกจากนี้ Centella Asiatica ยังใช้เป็นส่วนผสมสำคัญๆ ในหลายผลิตภัณฑ์ของการดูแลผิวที่หลายคนไม่เคยรู้มาก่อน
Satira จึงแอบมากระซิบเผยความลับพิเศษอย่างพลังของใบบัวบกต่อผิวพรรณ
ทำความรู้จักใบบัวบก
ใบบัวบก หรือ Centella Asiatica คือพืชสมุนไพรพบมากในแถบยุโรป แอฟริกาใต้ อินเดีย ปากีสถาน ศรีลังกา ตลอดจนไทยเอง มีขยายพันธุ์โดยการเพาะเมล็ด หรือตักแยกไหลที่มีต้นอ่อนและราก โดยใบบัวบกเป็นไม้ล้มลุกประเภทเลื้อยที่เรียกได้ว่ามีสรรพคุณและประโยชน์ทั้งใบ ต้น และเมล็ด มีส่วนประกอบสารประเภทไตรเทอร์ปินอยด์ ไกลโคไซด์ ที่ให้ประโยชน์ทางการแพทย์มากมาย นอกจากใบบัวบกจะเป็นที่ขนานนามว่าช่วยใช้เป็นยาภายนอกรักษาแผลเปื่อย แผลไฟไหม้น้ำร้อนลวก หรือแก้ช้ำในแล้ว ก็ยังดีต่อการบำรุงผิวพรรณและได้รับความนิยมและการยอมรับในการนำมาเป็นหนึ่งในส่วนผสมของผลิตภัณฑ์บำรุงผิวอีกด้วย
ใบบัวบกดีต่อผิวพรรณอย่างไร
ความลับอันเป็นเหตุผลที่ทำให้สารสกัดใบบัวบก (Centella Asiatica) ได้กลายมาเป็นสมุนไพรแห่งความงามหรือเป็นส่วนผสมในผลิตภัณฑ์บำรุงผิวพรรณมากมายนั้นมีอะไรบ้าง มาดูกัน
ต้านริ้วรอย คืนความอ่อนเยาว์
ในใบบัวบกจะมีส่วนประกอบสารประเภทไตรเทอร์ปินอยด์ที่ช่วยกระตุ้นการสร้างและลดการสลายของคอลลาเจนซึ่งเป็นส่วนสำคัญต่อผิวหน้า เพราะเมื่อยิ่งอายุเพิ่มมากขึ้นเท่าไหร่คอลลาเจนที่ผลิตได้ก็จะยิ่งน้อยลง ดังนั้นการเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของใบบัวจึงถือเป็นทางเลือกที่ดี
ลดสิว เพื่อผิวเรียบเนียน
เพื่อผิวเรียบเนียน ไร้สิว จะขาดใบบัวบกไปไม่ได้ เพราะใบบัวบกช่วยกระตุ้นคอลลาเจนในชั้นผิว ให้เกิดการซ่อมแซมผิวและเสริมสร้างชั้นบนของผิวทำให้ผิวแข็งแรง ลดการเกิดสิว อีกทั้งยังสามารถป้องกันผิวหน้าจากการถูกแสงแดดทำร้ายได้เป็นอย่างดี ใครที่ต้องเดินทางบ่อย ๆ ต้องลอง
บอกลาใต้ตาหมองคล้ำ
ใบบัวบกมี Anti-Oxidant สูง สามารถช่วยจัดการความหมองคล้ำของผิวหน้าและบริเวณใต้ดวงตาได้เป็นอย่างดี รับรองว่าใครที่เป็นสายโต้รุ่งบ่อย ๆ ทำงานหรือเรียนหามรุ่งหามค่ำต้องถูกใจหลงรักใบบัวบกกันอย่างแน่นอน
ซึ่งผลิตภัณฑ์เพื่อผิวพรรณโดยเฉพาะของ Satira เองล้วนมีสารสกัดใบบัวบกเป็นส่วนประกอบหลัก เพื่อต่อต้านริ้วรอย ฟื้นฟูผิว ปรับสภาพความสมดุลผิวและเพิ่มความกระปรี้กระเปร่าได้เป็นอย่างดี ดูแลตั้งแต่การทำความสะอาดผิวหน้าอย่างล้ำลึก หรือการดีทอกซ์ผิวพร้อมการบำรุงผิวในตัว ทั้งยังมีกลุ่มผลิตภัณฑ์ที่ให้ความชุ่มชื้นและลดริ้วรอยให้แก่ผิว ทำให้ผิวมีความสดใส นอกจากนี้ยังมีส่วนผสมจากสารสกัดสมุนไพรธรรมชาติที่ช่วยแก้ปัญหาผิวไปพร้อม ๆ กัน ไม่ว่าจะเป็น อโรเวล่า ฟื้นบำรุงผิวแห้งเสียผิวที่ขาดความชุ่มชื้น ลดการระคายเคืองผิวแสบร้อนจากแดด น้ำผึ้งที่ช่วยช่วยชะลอความเสื่อมของเซลล์ผิว หรือแม้แต่โสมและใบแป๊ะก๊วยซึ่งทำให้ผิวที่อ่อนแอหมองคล้ำกระชับปรับสมดุลให้ดีขึ้น นอกจากนี้ยังอุดมไปด้วยวิตามินเอซึ่งช่วยในการผลัดเซลล์ผิว และจัดการปัญหาใบหน้าได้เป็นอย่างดี
โดยสามารถใช้ได้เป็นประจำทุกวันเพราะอ่อนโยนเหมาะกับทุกสภาพผิว สาว ๆ คนไหนที่รู้ความลับของใบบัวบกแบบนี้แล้วต้องการปลอบประโลมและผ่อนคลายผิวพรรณบอกเลยว่าห้ามพลาด! สามารถเลือกชมผลิตภัณฑ์เพื่อผิวหน้าได้ที่ https://satirathai.com/product-category/skincare-th/
ทุกวันนี้ล้วนมีผลิตภัณฑ์ที่สามารถตอบโจทย์ความต้องการโดยเฉพาะรวมถึงสภาพผิวหน้าแต่ละแบบให้เลือกกันมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นน้ำตบ โทนเนอร์ ครีมบำรุงหรือผลิตภัณฑ์อื่น ๆ ให้ได้ใช้กัน แน่นอนว่าหลัก ๆ แล้วคงหนีไม่พ้นเรื่องของสิวและริ้วรอยที่ทุกคนกังวลและให้ความสำคัญกันเป็นส่วนใหญ่ จนลืมให้ความสำคัญกับความชุ่มชื้นของผิวหน้า ซึ่งเป็นปราการสำคัญในการปกป้องผิว โดยสามารถเสริมความชุ่มชื้นนี้ได้ด้วย Face Oil หรือ น้ำมันบำรุงผิวหน้า ซึ่งบทความนี้จะพาทุกคนทำความรู้จัก Face Oil ให้มากขึ้น และบอกรักตัวเองผ่านการดูแลผิวหน้าด้วยการเพิ่มความชุ่มชื้นไปกับ Face Oil
Face Oil คืออะไร ดียังไง ?
Face Oil หรือ น้ำมันบำรุงผิวหน้า คือหนึ่งในผลิตภัณฑ์นอกเหนือจากเซรั่มหรือแอมพลู ที่ช่วยเสริมสร้าง ฟื้นฟู และกักเก็บความชุ่มชื้นให้กับผิวหน้า เป็นเกราะป้องกันผิวหน้า ทำให้ผิวหน้าแข็งแรงมากขึ้น อีกทั้งยังช่วยควบคุมการผลิตน้ำมันและให้วิตามินรวมถึงสารสำคัญต่อผิว เพียงหยดลงบนฝ่ามือและนวดให้ทั่วบริเวณใบหน้าเบา ๆ ยิ่งถ้าหากเป็น Face Oil ที่มีส่วนผสมของน้ำมันหอมระเหยหรือสมุนไพรแล้วละก็จะช่วยทำให้ผ่อนคลายจากวันที่เหนื่อยล้าได้มากขึ้น เรียกว่าหายเป็นปลิดทิ้ง เพราะนอกจากจะทำให้สุขภาพผิวหน้าดีแล้ว สุขภาพจิตยังดีตามไปด้วย
Face Oil เหมาะกับคนผิวแบบไหน ?
หลาย ๆ คนอาจจะคิดว่าขึ้นชื่อว่า Face Oil ก็ต้องเหมาะกับคนที่มีผิวหน้าแห้งสิ แต่ความจริงแล้วการใช้น้ำมันบำรุงผิวหน้าไม่ได้เหมาะกับคนที่มีผิวแห้งเท่านั้น เพราะไม่ว่าจะมีสภาพผิวเป็นเช่นไรก็สามารถใช้น้ำมันบำรุงผิวหน้าได้ทั้งนั้น
ถ้าหากคุณเป็นคนผิวมันหรือผิวผสม การใช้ Face Oil จะช่วยรักษาความสมดุลของผิวให้ดีขึ้นโดยการปรับสมดุลความมันส่วนเกิน ลดปัญหาต้นตอของการเกิดสิว ซึ่งในขณะเดียวกันก็รักษาความอวบอิ่มของผิวหน้าไว้ด้วย
ถ้าหากคุณเป็นคนผิวแห้ง การใช้ Face Oil จะช่วยกักเก็บความชุ่มชื้น ป้องกันการสูญเสียน้ำในชั้นผิว รวมถึงยังช่วยเสริมสร้างความยืดหยุ่นของผิวและกระตุ้นให้ผิวเปล่งปลั่งได้
ทำไมผิวของเราถึงเสียความชุ่มชื้น ?
เนื่องจากผิวหน้าของเรามีการผลิตน้ำมันซึ่งเป็นไปตามธรรมชาติอยู่แล้ว แต่เมื่ออายุมากขึ้นการผลิตน้ำมันที่ว่านั่นก็จะลดน้อยลงไปเรื่อย ๆ ซึ่งอาจทำให้ผิวมีลักษณะแห้งกร้าน และทรุดโทรม ดังนั้นการใช้ Face Oil หรือ น้ำมันบำรุงผิวหน้าเข้ามารักษาความชุ่มชื้นให้กับผิวหน้าจึงเป็นวิธีที่ดีต่อผิวหน้า และยังทำให้ไม่เกิดการอุดตันของรูขุมขนอีกด้วย
สำหรับผู้สนใจอยากเริ่มต้นเติมความชุ่มชื้นให้กับผิวหน้า ขอแนะนำ Precious Face Essence ที่ต้องบอกเลยว่าดีต่อผิวและดีต่อใจ สามารถใช้ได้ทุกสภาพผิว นอกจากนี้ยังมีส่วนผสมอย่างน้ำมันหอมระเหยกุหลาบดามัสก์ และวิตามินซีบริสุทธิ์ เพื่อผิวหน้ากระจ่างใสและอ่อนเยาว์โดยน้ำมันหอมระเหยกุหลาบบริสุทธิ์จะช่วยทำให้รู้สึกผ่อนคลายจากวันที่เหนื่อยล้าด้วยกลิ่นหอมอ่อน ๆ พร้อมปลอบประโลมผิวและทำให้ผิวอ่อนเยาว์ขึ้นไปอีกระดับ อีกทั้งยังมีสารสกัดจากใบบัวบกช่วยกระตุ้นการไหลเวียนและการสร้างเซลล์ผิวใหม่ ประกอบกับกวาวเครือขาวช่วยนำความชุ่มชื้นและความอ่อนเยาว์กลับคืนสู่ผิว และอุดมไปด้วยอีมอลเลียนท์ที่ ช่วยลดความเสียดทาน ทำให้ผิวนุ่มเนียนลื่นมือเวลาสัมผัสได้และช่วยต้านอนุมูลอิสระเป็นอย่างดี เพียงแค่วอร์มน้ำมัน 1 - 2 หยดบนฝ่ามือ แล้วลูบไล้ลงบนผิวหน้าโดยเลื่อนจากกึ่งกลางใบหน้าไปยังขมับในแนวยกขึ้น ทำซ้ำทั่วใบหน้าจนซึมซาบก็จะรู้สึกและสัมผัสได้ถึงความชุ่มชื้น นอกจากนี้ความพิเศษของ Precious Face Essence คือสามารถใช้ได้ทั้งกลางวันและกลางคืน ซึ่งต่างจาก Face Oil บางตัวที่เหมาะจะใช้แค่ช่วงก่อนนอนเท่านั้น