คัดมาให้แล้ว! 10 ท่านวดง่าย ๆ ช่วยผ่อนคลาย ทำได้เองที่บ้าน 

 

การปวดเมื่อยตามตัว ไม่ว่าจะเพศใด อายุเท่าไร ก็สามารถพบเจอกับอาการเหล่านี้ได้ ซึ่งอาการเมื่อยล้าเหล่านี้ก็สามารถเกิดขึ้นได้จากหลากหลายพฤติกรรม แต่ที่แน่ ๆ ส่วนหนึ่งมาจากการทำงานหนัก ใช้ร่างกายหนักหน่วงแน่นอน และการนวดเนี่ยแหละ กลายเป็นอีก 1 ความผ่อนคลายทั้งร่างกายและสมองง่าย ๆ ที่จะสามารถช่วยบรรเทาความเมื่อยล้านี้ออกไปได้ 

แต่การนวดไม่ได้จำเป็นต้องไปร้านนวด ร้านสปาเสมอไป คุณเองก็สามารถนวดผ่อนคลายได้ ทำง่าย ๆ ทำเองที่บ้านได้เหมือนกัน วันนี้สถิราคัดมาให้แล้ว ด้วยกัน 10 ท่านวดง่าย ๆ ลองเอาไปทำตามด่วน ๆ ค่ะ

 

ท่าที่ 1 : นวดกล้ามเนื้อไหล่ 

ท่านี้ถูกใจคนนั่งโต๊ะ นั่งหน้าจอคอมพิวเตอร์นาน ๆ ทำงานหนัก ออฟฟิศซินโดรมกำลังเริ่มถามหา หรือมีปัญหาจากการนั่งผิดท่าจนทำให้เกิดอาการปวดเมื่อยอย่างแน่นอนค่ะ เพราะท่านี้จะเน้นการคลายความอ่อนล้าบริเวณช่วงไหล่ และต้นคอได้โดยเฉพาะเลย 

 

โดยการนวด ให้ใช้มือซ้าย กดนวดช่วงไหล่ด้านขวาที่รู้สึกปวดตึง ค่อย ๆ กดน้ำหนักนิ้วมือและฝ่ามือลงไป ทำค้างไว้ 5 วินาที ทำซ้ำแบบนี้ 3 – 5 ครั้ง แล้วจึงเปลี่ยนไปนวดอีกข้างหนึ่งในลักษณะเหมือนกัน 

 

ท่าที่ 2 : นวดกล้ามเนื้อต้นคอ 

สำหรับใครที่มีปัญหาปวดไหล่ ปวดช่วงบ่ามา แน่นอนว่ากล้ามเนื้อบริเวณคอจะต้องมีเจ็บ ๆ เมื่อย ๆ พ่วงมาด้วยบ้างแหละ ซึ่งการนวดกล้ามเนื้อบริเวณต้นคอไม่ได้ช่วยแค่เรื่องความสบาย คลายความปวดเมื่อย ลดความตึงปวดบริเวณหลังคอเท่านั้นนะคะ เทคนิคนี้ยังช่วยเรื่องคลายความเครียดไปในตัว ยิ่งถ้าได้น้ำมันนวดกลิ่นหอม ๆ ผ่อนคลายยิ่งเพอร์เฟ็คเลยค่ะ! 

 

การนวดกล้ามเนื้อคอ จะเริ่มจากการใช้มือข้างที่ถนันวางลงบริเวณหลังลำคอ จากนั้นบีบและคล้าบมือ ทำสลับกันประมาณ 5 – 10 ครั้ง โดยให้ลงน้ำหนักไปที่นิ้วมือ และฝามือไปพร้อม ๆ กัน 

 

ท่าที่ 3 : นวดบริเวณขมับ 

ไม่ได้ใช้แค่ช่วยบรรเทาอาการปวดศีรษะเท่านั้นนะ แต่ท่านวดท่านี้ยังช่วยคลายความเครียดแบบตรง ๆ ในวันหรือช่วงเวลาที่เครียดจนปวดหัว ไอเดียหายแบบเฉียบพลัน นอกจากการเติมน้ำตาลให้สมองแล้ว ก็ลองหยุด หลับตาพักสายตาเสียหน่อย ระหว่างนี้ก็มาลองนวดกดจุดช่วยผ่อนคลายบริเวณขมับดู ท่านี้ช่วยบรรเทาอาการปวดหัวเวลาเป็นไมเกรน และช่วยลดความเหนื่อยล้าของดวงตาได้อีกด้วยนะ 

 

วิธีนวดจะเริ่มจากการแบมือ 1 ข้าง ใช้นิ้วชี้และนิ้วกลาง กดคลึงบริเวณขมับทั้ง 2 ข้างเป็นวงกลม นวดวนซ้ำ 6 – 10 ครั้ง จากนั้นลงน้ำหนักนิ้วข้างไว้ 3 – 4 วินาที จากนั้นค่อย ๆ ผ่อนน้ำหนักลง ทำซ้ำ 3 – 5 ครั้ง 

 

ท่าที่ 4 : นวดหัวคิ้ว 

จุดนี้ถือเป็นการนวดกดจุดอีก 1 ท่า ที่เน้นช่วยเรื่องความเครียดสะสม ความกดดันจากการทำงานหนัก ช่วยแก้อาการปวดหัว เมื่อยเรื้อรัง หรือใครที่ชอบขมวดคิ้วบ่อย มีอีกชื่อหนึ่งเรียกกันว่าการนวดบริเวณตาที่สาม 

 

ท่าที่ 5 : นวดดวงตา 

ท่านี้จะเป็นการผ่อนคลายดวงตาแบบตรง ๆ ยิ่งใครที่ต้องทำงานกับจอคอมพิวเตอร์ นั่งหน้าโต๊ะ ต้องจ้องจอ ต้องใช้สายตาอย่างหนักหนวงในการทำงาน หรือใครที่อาจจะชิวจัดแต่มักจะใช้เวลาไปกับการดูทีวี จ้องจอโทรศัพท์นาน ๆ อันนี้ก็สามารถนำการนวดนี้ไปใช้ได้เหมือนกัน อาจจะต้องใช้ความทะนุถนอมซักหน่อยนะ แต่รับรองเลยว่าช่วยให้ผ่อนคลายได้แน่นอน 

 

ใช้ปลายนิ้วโป้งกดบริเวณเปลือกหัวตา กดน้ำหนักลงเล็กน้อย กดค้างไว้นับ 6 – 7 วินาที แล้วจึงค่อย ๆ ผ่อนน้ำหนักมือออก 

 

ท่าที่ 6 : นวดใบหู 

นอกจากเอาไว้ฟังเสียงลูกค้าแล้ว อวัยวะส่วนนี้อาจจะไม่ได้มีความปวดเมื่อยอะไรชัดเจนเหมือนส่วนอื่น ๆ ค่ะ แต่ต้องเอามาลงมารวมใน 10 ท่านวดง่าย ๆ นี้เพราะว่าการนวดใบหู ช่วยเรื่องความผ่อนคลาย สบายใจ หลังจากที่ต้องอยู่กับงาน เพ่งกับจอคอมพิวเตอร์หรือเอกสารนาน ๆ นอกจากนี้จุดนี้ยังเป็นจุดสำคัญที่กระตุ้นระบบ ช่วยทำให้การทำงานของไตแข็งแรงขึ้นได้อีกด้วยค่ะ 

 

การนวดใบหู ยังคงต้องใช้แรงน้อย เน้นเบามืออยู่เหมือนเดิมเพราะใบหูก็เป็นอีก 1 ส่วนที่บอบบางไม่แพ้ใคร ให้เริ่มจากการวงมือทั้ง 2 ข้าวไว้ที่หูทั้ง 2 ข้าง ใช้ปลายนิ้วโป้งไว้หลังใบหู ส่วนนิ้วที่เหลือให้วางประคองด้านหน้าไว้ นวดคลึงใบหูให้ทั่วจนหูเริ่มรู้สึกอุ่น จากนั้นดึงใบหูออกด้านข้างเบา ๆ 3 – 4 วินาที แล้วจึงปล่อยมือ ทำซ้ำ 3 ครั้ง 

 

ท่าที่ 7 : นวดหนังศีรษะ 

เวลาเราทำงานหนัก ๆ หรือให้ความสนใจ โฟกัสกับอะไรนาน ๆ สมองย่อมทำงานหนักจากเหนื่อยล้า อ่อนแรงเป็นธรรมดา ใครที่เคยมีอาการเหล่านี้ สมองตื้อ คิดอะไรไม่ค่อยออก มึน ๆ ปวดหัวบ่อย อาจจะเป็นสัญญาณของการใช้สมองมากเกินไป ให้มาลองนวดหนังศีรษะคลายความเครียดกระตุ้นการไหลเวียนของเลือดดูกัน นอกจากแก้เครียดได้แล้ว ยังช่วยลดปัญหาเรื่องผมร่วงได้อีกด้วยนะคะ

 

ให้เริ่มจากการสอดมือเข้าไปในเส้นผมชิดติดหนังศีรษะ กำมือค้างจนรู้สึกตึง นับ 1 – 3 แล้วจึงเปลี่ยนตำแหน่ง ทำไปเรื่อย ๆ จนทั่วหนังศีรษะ 

 

ท่าที่ 8 : นวดเส้นเอ็นข้อมือ 

ถูกใจคนนั่งหน้าคอมพิวเตอร์ต้องคลิกเม้าส์ พิมพ์ข้อมูล หรือใช้มือในการทำงานหนัก ๆ แน่ ๆ แต่การนวดเส้นเอ็นข้อมือไม่ได้ช่วยแค่เรื่องคล้ายอาการปวดเมื่อย เหนื่อยล้าหลังทำงานเท่านั้นนะ แต่การนวดกดจุดบริเวณนี้เป็นจุด The Pericardium Point ช่วยปลดปล่อยร่างกายให้ผ่อนคลาย แก้อาหารวิงเวียนศีรษะ ช่วยลดอาการคลื่นไส้อาเจียน และอาการเมารถได้ด้วย 

 

เริ่มจากการหาจุด The Pericardium Point อยู่บริเวณล่างข้อมือลงมา 3 นิ้ว ตรงกลางระหว่างเส้นเอ็นทั้ง 2 เส้น เมื่อหาเจอแล้วให้ใช้นิ้วชี้และนิ้วกลางกด ทิ้งน้ำหนักไว้ 4 – 5 วินาที ทำซ้ำ 2 – 3 รอบ 

 

ท่าที่ 9 : นวดหลังข้อเท้า 

ร่างกายของเราถึงแม้ว่าจะอยู่ส่วนล่างสุดอย่างเท้า แต่ทุกอย่างมันเชื่อมกันหมดทุกส่วนค่า สำหรับใครที่เริ่มจะเข้าวงการปวดหลัง ปวดคอบ่าไหล่ การนวดหลังข้อเท้าช่วยบรรเทาอาการเหล่านี้ได้อีกแรงแน่นอน 

 

โดยจุดที่ใช้นวดจะอยู่ระหว่างตาตุ่ม กับเอ็นรอยหวายด้านหลังข้อเท้า ใช้นิ้วโป้งและนิ้วชี้จับบริเวณหลังเท้า กดน้ำหนักลงค้างไว้ 1 นาที 

 

ท่าที่ 10 : นวดกดจุดเท้า 

สำหรับจุดนี้สามารถแก้อาการปวดหัว และอาการเมื่อยล้า ปวดเท้าได้ ถือเป็นอีก 1 จุดลับ แต่สำคัญมาก ๆ สำหรับคนที่มีปัญหาออฟฟิศซินโดรม เพราะจุดนี้เป็นจุดที่ส่งตรงช่วยลดอาการเหนื่อยล้าของดวงตา และพัฒนาในเรื่องสมาธิได้อีกด้วยนะ 

 

จุดที่ว่า จะอยู่ระหว่างกึ่งกลางนิ้วโป้งและนิ้วชี้เท้า ขยับลงมาจากโคนนิ้ว 3 – 3.8 เซนติเมตร ใช้นิ้วโป้งมือกดค้างหลังเท้า ระหว่างนิ้วโป้งและนิ้วชี้เท้า ลงน้ำหนักกดค้างไว้ 1 นาที แล้วทำอีกข้าง 

 

แต่นอกจากเทคนิค ท่าทางการนวดต่าง ๆ แล้ว การใช้ตัวช่วยที่สามารถทำให้ร่างกายผ่อนคลายได้จากกลิ่น สัมผัส สารอาหารบำรุงผิวจากธรรมชาติ และช่วยลดความเมื่อยล้าต่าง ๆ ก็ถือเป็นสิ่งสำคัญที่ทำให้การนวดเพิ่มประสิทธิภาพสูงสุดขึ้นได้ด้วย Satira Massage Oil หนึ่งในความภาคภูมิใจที่ได้รับรางวัลผลิตภัณฑ์สมุนไพรคุณภาพ ปี พ.ศ 2561 โดยกรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก กระทรวงสาธารณสุข 

มีส่วนผสมของน้ำมันงา น้ำมันรำข้าว น้ำมันสวีทอัลมอนด์ และวิตามินอี เพิ่มความชุ่มชื้นและบำรุงผิวอย่างล้ำลึก เข้มข้น ผสมผสานเข้ากับน้ำมันหอมระเหยจากน้ำมันหอมระเหยบริสุทธ์ มีให้เลือกหลากหลายกลิ่น หลายอารมณ์ความรู้สึก 

 

แนะนำ 

  • Relax Lavender : ลาเวนเดอร์ ที ทรี และเปปเปอร์มินท์ ช่วยลดความเครียด เกิดสมดุลของร่างกาย และจิตใจ
  • Uplift Geranium : ผสมผสานเจอราเนียม โรสแมรี่ และน้ำมันหอมระเหยขมิ้น เหมาะกับการคลายเครียด และความเมื่อยล้าจากการทำงาน นอกจากนี้ยังช่วยเพิ่มสมาธิ และดีท็อกซ์อีกด้วย
  • Rose : เพิ่มความโรแมนติก หอมหวาน มีเสน่ห์เหลือล้นด้วยกลิ่นหอมจากกถหลาบ เพิ่มความผ่อนคลาย ลดอาการนอนไม่หลับ 
  • Thai Plai : ผสมผสานกลิ่นหวานและอบอุ่นแบบสมุนไพรไทย ทำให้รู้สึกสงบ และมีคุณสมบัติช่วยแก้ปวดเมื่อยล้า คลายกล้ามเนื้อ